ข่าวแย่ๆในตลาดตอนนี้ คงหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจในอเมริกา และปัญหาหนี้ในยุโรป วันนี้ผมจะมาเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับสองวิกฤตนี้ว่ามีความน่ากลัว หรือความไม่น่ากลัวอย่างไร
อเมริกา
ถ้าพูดถึงสหรัฐอเมริกาตอนนี้ นักลงทุนคงนึกถึงดับเบิ้ลดิป หรือวิกฤตเศรษฐกิจรอบสอง หรือกลัววิกฤตปี2008หวนคืนกลับมา
ประเด็นแรกเกี่ยวกับอเมริกาก็คือ วิกฤตของอเมริกาที่เกิดขึ้นเมื่อ2008นั้นรุนแรงมาก ถึงแม้เศรษฐกิจจะขยายตัวและตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมาในช่วงเกือบสองปีที่ผ่านมา ผลกระทบของวิกฤตครั้งนั้นก็ยังไม่ได้หายไปอย่างปลิดทิ้ง ปัญหาที่ยังเห็นได้ชัดก็คือ อัตราการว่างงานที่สูงกว่าเก้าเปอร์เซ็นต์ ราคาบ้านที่ยังลดลงอยู่เรื่อยๆ สาเหตุก็คือ ในช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤต ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปนั้นต่างมีหนี้สินท่วมท้น พอเกิดวิกฤตเกิดขึ้น หน่วยงานรัฐต่างพากันเข้ามาช่วยเหลือด้วยการ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีต่างๆนา ซึ่งรวมไปถึงการซื้อหนี้จากเภคเอกชนด้วย สิ่งนี้ทำให้ก้อนหนี้อันมหาศาลถูกย้ายจากประชาชนมาที่รัฐบาล และธนาคารกลางแทน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พอประชาชนทั่วไปเริ่มทรงตัวได้ ภาครัฐกลับลุกขึ้นเดินต่อไม่ไหวเพราะต้องแบกรับภาระหนี้อันมหาศาลจนกลายเป็นตัวถ่วงในระบบเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเชื่อครับว่า อเมริกาอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่เป็นการฟื้นตัวที่เป็นไปได้อย่างยากลำบาก และต้องใช้เวลานาน และจะไม่พุ่งขึ้นเป็นเส้นตรง และมีความเป็นไปได้ด้วยว่า อัตราการเติบโตของGDPอาจปรับตัวลงจนใกล้เคียงศูนย์ หรือต่ำกว่านั้นจนทำให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ"ชั่วคราว" แต่จะไม่ใช่วิกฤตที่รุนแรงนัก เพราะวิกฤตที่รุนแรงมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่เกิดปรากฎการณ์พร้อมกันสี่อย่าง คือ 1.)ระดับหนี้ในระบบเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันหลายปี 2.)ราคาบ้านเพิ่มติดต่อกันหลายปี 3.)ตลาดหุ้นขึ้นติดต่อกันหลายปี 4.)ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น
แต่ทว่าอเมริกาเจอแค่ปรากฎการณ์เดียวเท่านั้นคือ ตลาดหุ้นขึ้นมาติดต่อกันมาเป็นเวลาพอสมควร ในขณะเดียวกัน ประชาชน บริษัทและรัฐบาลต่างก็พยายามหาทางลดหนี้ เศรษฐกิจก็ไม่ได้ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ราคาบ้านก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะขึ้น และท้ายที่สุดดอกเบี้ยทั้งระยะสั้น และระยะยาวก็อยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์
สรุปสั้นๆก็คือ อเมริกาอยู่ในช่วงอ่อนแอก็จริง แต่ไม่มีวิกฤตที่น่ากลัวแต่อย่างใด
ยุโรป
ปัญหายุโรปนี้ต่างจากอเมริกาครับ เพราะอันนี้ของจริง! ที่จริงแล้วผู้เขียนเคยเตือนไปตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับว่ากรีซไม่มีทางจ่ายหนี้คืนได้หมด หลายๆประเทศในอดีตที่เคยเจอปัญหาคล้ายกับกรีซสามารถปรับลดค่าเงินของประเทศเพื่อกระตุ้นการส่งออกได้ แต่ถึงแม้จะพยายามมากแค่ไหน หลายๆประเทศที่ได้พยายามก็ไปไม่รอดอยู่ดี แต่กรีซไม่สามารถหาทางออกด้วยวิธีนี้ได้เลย เพราะประเทศเขาใช้ค่าเงินยูโร เพราะฉะนั้น ประเทศที่มีเครื่องมือการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศอื่น จะรอดจากวิกฤตอันหนักหนาสาหัสครั้งนี้ไปได้อย่างไร? คำตอบก็คือ ยังไงก็ไปไม่รอดนั้นเองครับ
สิ่งสำคัญที่ผมอยากเตือนนักลงทุนทั้งหลายเอาไว้ก็คือ อเมริกาไม่น่าห่วง แต่ยุโรปน่าห่วงกว่าเยอะ!
