การลงทุนหุ้น และเศรษฐกิจ อัพเดทรายสัปดาห์

01 ธันวาคม 2554

ตอบคำถามจากผู้อ่าน: ข้อสงสัยจากบทความ


ผู้อ่านหลายๆท่านคงทราบอยู่แล้วว่า ผมยินดีรับฟังและตอบคำถามจากผู้อ่านเสมอ เพราะผมคิดว่าคำตอบของผมอาจจะเป็นประโยชน์กับทั้งเจ้าของคำถามและผู้อ่านท่านอื่นๆด้วยเช่นกัน

หลายๆท่านที่มีคำถามหลังจากที่อ่านบทความเสร็จได้โพสความคิดเห็นและคำถามไว้ใต้บทความ(โดยเฉพาะคุณTurof คุณPandaและคุณผู้ชายนิรนามอีกท่านหนึ่ง ขอบคุณมากครับ) ผมก็จะตอบไว้ที่ได้บทความ แต่บางท่านส่งอีเมลล์มาถาม หรือไม่ก็โพสถามกระทู้ในSETTRADE คำถามเหล่านี้จึงไม่ปรากฎให้เห็นในบล็อค ผมจึงขอเอาคำถาม-คำตอบเหล่านี้มาโพสซ้ำ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านSETTALKต่อไปครับ

P/E Ratio

คำถามชุดแรกนี้ เกิดขึ้นเมื่อผู้อ่านเกิดข้อสงสัยหลังจากที่ได้อ่านบทความ ความรู้การลงทุนหุ้น [Price-to-Earning Ratio: Part I ทำไมP/Eของแต่ละบริษัทจึงไม่เท่ากัน?]


คุณหมูน้อย: "กี่ปีคุ้มทุน คุณถึงเอา"

SETTALK: โดยปกติผมตั้งเกณฑ์ไว้กับตัวเองครับว่าผมจะไม่ซื้อหุ้นP/Eเกิน20 แต่ว่าตอนนี้[18/11/2011]หุ้นในพอร์ทผมไม่มีหุ้นตัวไหนที่P/Eเกิน13เลยครับ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ10ด้วยซ้ำ

แต่ถ้าผมเห็นว่าบริษัทไหนมีความสามารถในการแข่งขันสูง มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี ผมอาจจะยอมจ่ายแพงกว่าP/E=13ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ผมจะพยายามหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีP/Eสูงกว่า20ครับ เพราะผมยังเชื่อว่าของดีๆราคาถูกๆในตลาดบ้านเรานั้นยังพอมีให้ซื้ออยู่ ทำไมจะต้องไปจ่ายแพงด้วยละ?

คุณหมูน้อย: "ก็หมายความว่า av 10 ปีคุ้มทุน ถ้า EPS growth rate เป็น 0  สูงไปอะ แก่แล้ว"

SETTALK: อ่อ ไม่ใช่ครับ ถ้าEPS growth rate เป็น0 ผมขอP/Eประมาณ4-6ครับ

ส่วนหุ้นที่ผมซื้อมาแล้วส่วนใหญ่ พวกนั้นผมเดาว่าคงโตต่อได้[เฉลี่ยประมาณ]10%[ต่อปี]ในอีก5ปีข้างหน้าอย่างไม่มีปัญหานะครับ



คำแนะนำจากเหล่าเซียน

คำถามชุดต่อมา เกิดจากผู้อ่านบางท่านเกิดข้อสงสัยหลังจากที่ได้อ่านบทความ Quotes เด็ดๆ Part II

คุณYongping: "อ่านแล้วผมชอบคิดต่อ เมื่อคิดต่อก็ย่อมเกิดคำถามขึ้นในขบวนการคิด... ตัวอย่างคำถาม หนึ่ง... ท่านคิดว่านักลงทุนไทยส่วนใหญ่ มีกรอบความคิดต่อการลงทุนในหุ้นอย่างไร... "

SETTALK: ผมว่าเกิน90%ของคนไทยเล่นระยะสั้นนะครับ สาเหตุที่เดาแบบนั้นก็เพราะว่า

1.) คนที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัวเล่นสั้นกันเกือบหมด มีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่ถือยาวจริงๆ
2.) บทสนทนาของคนในบอร์ดของSETTRADEและPANTIPส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องทิศทางตลาดมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน แต่พอเวลาพูดถึงบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ก็พูดถึงแต่เรื่องที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ เช่น "บริษัทนี้น่าซื้อนะ เพราะเดือนหน้ามันจะกำไรขึ้นเยอะเลย เนื่องจาก...."

คุณYongping: "สอง... ถ้าท่านศึกษาแล้วและเชื่อว่าหุ้นB จะเคลื่อนจากราคา@0.60 ไปสู่ราคาที่เหมาะสมหรือยุติธรรม@0.90ภายในหนึ่งถึงสองปี แต่โดยธรรมชาติราคาไม่เคยขึ้นอย่างเดียวโดยไม่มีการย่อ ถามว่าท่านจะซื้อแล้วทนถือไปเรื่อยๆ หรือจะซื้อขายเล่นรอบ"

SETTALK: ถ้าผมเชื่อแบบนั้นจริงๆผมคงทยอยซื้อ แต่ถ้าคุณผิงพูดถึงBTSผมไม่คิดจะซื้อตั้งแต่แรกแล้วครับ เหตุผลก็คือสิ่งที่ผมเคยบอกคุณหมูน้อยไปแล้วครับว่า

-โดยปกติผมตั้งเกณฑ์ไว้กับตัวเองครับว่าผมจะไม่ซื้อหุ้นP/Eเกิน20... (กลับไปดูคำตอบข้อแรกที่ผมตอบคุณหมูน้อย)

คุณYongping: "สาม... พวกสถาบันการเงินหรือกองทุน มีพฤติกรรมเป็นนักลงทุนระยะยาวหรือนักเก็งกำไรมากกว่ากัน"

SETTALK: กองทุนในไทยส่วนใหญ่แล้วจะมีพฤติกรรมเป็นนักลงทุนระยะยาวนะครับ ผมพอจะทราบเพราะเคยสอบถามจากอดีตผู้จัดการกองทุน และจากการศึกษาด้วยตนเองครับ [กองทุนในที่นี้ไม่รวมTrigger Fundsนะครับ]

คุณYongping: "สี่... คุณคิดว่าการซื้อถือลงทุนระยะยาวกับหุ้นไทยนั้นเป็นแนวความคิดที่ถูกต้องจริงหรือ (ถ้าจะเริ่มต้นในตอนนี้ วันนี้ [30/11/2011])"

SETTALK: ไม่ว่าจะเริ่มต้นวันไหน การลงทุนย่อมเหนือกว่าการเก็งกำไร แต่การลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมี 1.)ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงบการเงินเพียงพอ 2.)กรอบหรือวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง 3.)วินัยและความอดทน และ4.)ต้องเป็นคนมีเหตุมีผล

การซื้อลงทุนระยะยาว ไม่ได้แปลว่า ซื้อเมื่อไรก็ได้แล้วถือไปเรื่อยๆแล้วจะดีเอง หุ้นดีๆก็ไม่ได้มีมูลค่าสูงแบบไร้ขีดจำกัด ถ้าคุณซื้อของดีผิดเวลา คุณอาจแทบไม่กำไรเลยก็ได้ถึงแม้ว่าจะถือยาวเป็นปีๆก็ตาม เพราะฉะนั้นเราต้องมีความอดทนทั้งตอนที่รอซื้อ และตอนที่ถือเพื่อรอขาย

บุคคลที่ผมบอกว่าเป็นคนเน้นถือยาว และผมรู้จักเป็นการส่วนตัวนั้น เป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากในการลงทุนหุ้น และเขาเคยกล่าวไว้ว่า "ถ้านักลงทุนรายย่อยเอาแต่เก็งกำไรหรือเล่นสั้น เขาคนนั้นก็จะเป็นได้แค่นักลงทุนรายย่อยต่อไป"

คุณAekka: "ถ้าคนทุนน้อยละครับ การเล่นสั้นเป็นคำตอบที่ดีกว่าเล่นยาวหรือไม่ ??? ตามความคิดของผมเท่าที่สังเกตมา คนเล่นยาวทุนมักจะสูงครับ"

SETTALK: คนที่ยังทุนไม่ค่อยเยอะ อาจจะมีเหตุผลในการ"เล่นสั้นกว่า"ดังนี้ครับ

สมมุติว่ามีหุ้นที่ดีๆอยู่ในตลาดอยู่มากมาย แต่มีเงินอยู่ค่อนข้างจำกัด อยากซื้อ10ตัว แต่ซื้อได้แค่5 ก็ต้องซื้อ5ตัวไปก่อน

พอเวลาผ่านไป เราเห็นบางตัวที่เราอยากซื้อราคาถูกลงไปอีก ถึงตอนนี้อาจจะต้องสินใจแล้วว่าตัวที่เราถืออยู่ตัวไหนราคาขึ้นมาเยอะจนสะท้อนข่าวดีไปหมดแล้ว ต้องลองพิจารณาดูแล้วขายทิ้ง เพื่อจะได้ไปซื้อตัวที่ถูกกว่า หรือมีอนาคตดีกว่านั้นเอง

แต่ถ้าคนมีทุนเยอะก็อาจจะได้เปรียบในแง่ที่ว่า อยากซื้อเพิ่มก็ซื้อได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเล่น

แต่เหตุผลดีๆอย่างอื่นในการเล่นไม่ยาวเท่าที่ควร ผมว่าไม่มีแล้วนะครับ นักลงทุนทั้งเมืองนอกและเมืองไทยหลายๆคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ก็ไม่ได้มีทุนเยอะมาตั้งแต่เริ่มแรก แต่เขาก็ถือยาวกันได้ และทำกำไรกันได้ดีกว่าคนส่วนใหญ่ด้วย หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การลงทุนแบบถือยาวนี้แหละ ที่เปลี่ยนพวกเขาจากคนทุนน้อย ให้กลายเป็นคนทุนเยอะ


คำถามสุดท้าย เป็นคำถามที่ผมได้รับจากอีเมลล์ครับ

คุณนิรนาม: การดูข้อมูลจากsettradeของหุ้นหลายๆตัว คือไม่แน่ใจว่ามีการแต่งบัญชีด้วยหรือไม่ จะใช้อะไรในการประกอบการตัดสินใจครับ

SETTALK: อ่านคำตอบได้ที่ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลในsettrade และการแต่งบัญชี


หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยแก้ไขข้อข้องใจของผู้อ่านทุกๆท่านได้บ้างนะครับ

Posted in:
Twitter