วันนี้SETTALKขออาสาแนะนำเว็บดีๆที่ผู้เขียนใช้และอ่านอยู่เป็นประจำครับ
เว็บที่หนึ่ง เว็บหุ้น TORO.IN.TH นักลงทุนดันโด วิเคราะห์หุ้น [http://www.toro.in.th/]
TORO.IN.TH เป็นเว็บที่ครอบคลุมมากที่สุดเว็บหนึ่งเลยครับ ภายในเว็บมีหัวข้อต่างๆที่เกี่ยวกับการลงทุน เช่น ข้อมูลพื้นฐานหุ้น ความรู้เรื่องหุ้น ตราสารอนุพันธ์ วิเคราะห์หุ้น วิเคราะห์เศรษฐกิจ สอนMetaStock แนะนำหนังสือหุ้น และอื่นๆอีกมากมาย เอาเป็นว่าอ่านกันทั้งปีก็ไม่หมด
หัวข้อของTOROที่ผมแนะนำ คือ "วิเคราะห์งบการเงินของบริษัท" ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมบทความต่างๆเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานการลงทุนไม่ว่าจะเป็น ความหมายของงบดุล การใช้P/E ratioเพื่อคำนวณมูลค่าหุ้น อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ
สาเหตุที่แนะนำก็เพราะว่า ความรู้เหล่านี้มีประโยชน์และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน ถ้าคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ (หรือมือเก่าที่พื้นฐานยังไม่แน่น) อย่าลืมแวะไปอ่านTORO.IN.THในหัวข้อ "วิเคราะห์งบการเงินของบริษัท" นะครับ
เว็บที่สอง หุ้นวันนี้ [http://jo.klongjan.com/]
เว็บนี้เป็นเว็บข่าวการเงินครับ(ซึ่งหลักๆแล้วลิงค์ข่าวมาจากryt9.comอีกที) แต่ถ้าเป็นเพียงแค่เว็บข่าวธรรมดาๆ SETTALKคงไม่นำมาบอกต่อ
เว็บนี้โดดเด่นกว่าเว็บข่าวทั่วไปเนื่องจากหลายเหตุผลด้วยกันครับ เหตุผลแรกก็คือ นักลงทุนสามารถค้นหาข่าวของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นได้โดยแค่การใส่ชื่อย่อหุ้นของบริษัทนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเข้าไปในเว็บดังกล่าว แล้วพิมพ์KBANKเข้าไปในกล่อง"ค้นหาข่าว งบการเงินของหุ้น" หลังจากนั้น กด"ข่าวและกราฟ" ข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับธนาคารกสิกรไทยก็จะปรากฎขึ้นมาทันที ถ้าคุณพิมพ์MINT สิ่งที่คุณได้ก็จะเป็นข่าวของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เว็บนี้จึงใช้สำหรับหาข่าวหุ้นรายตัวได้สะดวกดีจริงๆครับ
นอกจากข่าวของบริษัทต่างๆที่ทันต่อเหตุการณ์แล้ว สิ่งที่นักลงทุนจะได้เมื่อกดค้นหาก็คือ กราฟราคาหุ้น ที่ย้อนหลังได้ไกลสุดถึง5ปี และตัวบ่งชี้ต่างๆที่นักลงทุนเทคนิคใช้กัน ได้แก่ MACD, RSI, Stoch, Volumeการซื้อขาย MAและEMAของราคาหุ้น
นอกจากนั้น เว็บนี้ยังรวบรวมกราฟราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไว้หลายอย่างด้วยกันเช่น กราฟราคาทองคำ ราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน และค่าระวางเรือBDI เป็นต้น (คลิกดูกราฟเหล่านี้ได้ใน"กราฟหุ้นกราฟน้ำมัน")
เท่านั้นยังไม่พอ เว็บนี้ยังมีกระทู้เป็นของตัวเองอีกด้วย ซึ่งใช้ชื่อว่า"คลองจั่นฟอรั่ม"
"หุ้นวันนี้" ยังมีของเล่นเล็กๆน้อยๆสำหรับนักลงทุนอีกหลายๆอย่าง ถ้าว่างๆก็ลองไปเยี่ยมชมดูนะครับ
เว็บที่สาม Thai stock information [http://www.thaistockinfo.com/]
เว็บนี้ครบเครื่องจริงๆครับสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย เพราะเขารวบรวมลิงค์ที่เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นมาเป็นร้อยๆอัน หลายๆลิงค์ก็เป็นลิงค์ที่นักลงทุนรู้จักกันอยู่แล้วเช่น Bloomberg, SETTRADE, CNBC, Pantip สินธร และ บล็อกของดร.นิเวศน์ที่อยู่ในSETTRADE
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญมากและเป็นเอกลักษณ์ของThaistockinfoก็คือ แอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า "Stock Ranking" ซึ่งทำหน้าที่จัดอันดับหุ้นตามตัวเลขต่างๆเช่น Dividend Yield, Market Capitalization, Book Value และ P/E Ratio เป็นต้น นักลงทุนที่คอยมองหาหุ้นที่มีP/Eต่ำคงรู้ดีครับว่า การมีโปรแกรมช่วยเรียงลำดับหุ้นตามอัตราส่วนนี้โดยอัตโนมัตินั้นสะดวกแค่ไหน
เว็บที่สี่ SEC, Thailand [http://www.sec.or.th]
ถ้าคุณเป็นนักลงทุน คุณต้องทำความรู้จักกับเว็บนี้ไว้ครับ
เมื่อคุณเข้าไป คุณจะพบว่า เว็บนี้เป็นเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดการเงินอยู่ภายใต้กฎหมาย
แล้วเว็บนี้มีอะไร ให้นักลงทุนอย่างพวกเราดู? คำตอบคือมีเพียบครับ
สิ่งที่น่าสนใจส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ ด้านล่างสุด ขวามือ ของเว็บไซต์ ภายใต้หัวข้อShortcut
ตรง Shortcut จะมีตัวเลือกต่างๆให้เลือกเช่น
งบการเงิน - ที่ที่ท่านสามารถดูงบการเงินของบริษัทย้อนหลังได้ถึง 10 ปี เพียงแค่ท่านใส่ชื่อหุ้น หรือ ชื่อเต็มของบริษัท แล้วเลือกงบปีที่ต้องการดู
รายงานการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (59-2) - ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เขาซื้อหรือขายหุ้นของตัวเอง? ท่านสามารถทราบได้ที่นี่ เพราะเขามีรายงาน การซื้อ-ขายของคนวงในแบบรายวัน นอกจากนี้ท่านยังสามารถดูรายงานการซื้อ-ขายของบุคคลเหล่านี้ย้อนหลังได้อีกด้วย เพียงคลิกที่ "ข้อมูล 59-2 ย้อนหลัง"แล้วเลือกช่วงเวลา และบริษัทที่ท่านต้องการ
แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (56-1) - เอกสารชุดนี้สำคัญมากครับ สำหรับการศึกษาข้อมูลบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นศึกษา หรือ ศึกษาในเชิงลึก เพราะในนี้มีทั้ง "ลักษณะการประกอบธุรกิจ" สำหรับท่านนักลงทุนที่ต้องการรู้ว่า บริษัททำธุรกิจอะไร มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อะไรบ้างที่เกิดขึ้นกับบริษัทในปีช่วง2-3ปีที่ผ่านมา และที่สำคัญที่สุด ในนี้มีการอธิบาย โครงสร้างรายได้ของบริษัท ไว้อย่างดี (ตัวอย่างเช่น รายได้มาจากสินค้า A = 50% และ สินค้า B =50%) ผู้ที่ไม่รู้ว่าบริษัทที่ตนเองซื้อหุ้นมา เก็บเกี่ยวรายได้มาจากช่องทางไหนเป็นหลัก จะเรียกตัวเองว่านักลงทุนได้อย่างไร?
นอกจากนี้ ยังมี "การประกอบธุรกิจแต่ละสายภัณฑ์" ซึ่งทางบริษัทจะอธิบายให้นักลงทุนฟังอย่างละเอียดว่า ทางบริษัทนั้นมีธุรกิจอะไรบ้าง ขายสินค้าและบริการอะไรบ้าง และสภาพตลาดและการแข่งขันในช่วง2-3ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ "ปัจจัยความเสี่ยง" ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทเองคาดว่า อาจส่งผลกระทบในแง่ลบต่อผลประกอบการในอนาคต ซึ่งโดยทั่วไป บริษัทจะแจ้งวิธีการรับมือต่างๆที่บริษัทวางแผนจะทำไว้ด้วย
ที่จริงแล้ว รายงาน56-1ของแต่ละบริษัทจะมีอยู่ประมาณ 18 รายการนะครับ แต่ผมว่าสามอันนี้คงจะสำคัญที่สุด สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ ผมขออนุญาตทวนให้นะครับ
ใน แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (56-1) ของบริษัทที่ท่านต้องการศึกษา ท่านไม่ควรพลาดสามสิ่ง ดังต่อไปนี้
1.) ลักษณะการทำธุรกิจ
2.) การประกอบธุรกิจแต่ละสายภัณฑ์
3.) ปัจจัยความเสี่ยง
นักลงทุนที่จริงจังกับการสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง และต้องการทำความเข้าใจพื้นฐานของบริษัท ห้ามพลาดครับ
-------------------------------------
จบไปแล้วครับ สำหรับเว็บการลงทุนดีๆที่เป็นภาษาไทย ในบทความภาคต่อ ผมจะมาแนะนำเว็บการลงทุนที่เป็นภาษาอังกฤษครับ ระหว่างนี้ ถ้าท่านผู้อ่านท่านใดมีเว็บไทยดีๆอยากจะแนะนำ ก็เขียนลิงค์ไว้ที่คอมเม้นด้านล่าง หรือในfan pageได้เลยนะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับผม
บทความที่คล้ายกัน
เว็บไซต์ดีๆที่นักลงทุนไม่ควรพลาด: เว็บต่างประเทศ
