การลงทุนหุ้น และเศรษฐกิจ อัพเดทรายสัปดาห์

05 กุมภาพันธ์ 2553

Before You Start: กฏ3ข้อเกี่ยวกับการเล่นหุ้นที่คุณต้องทราบ



การเล่นหุ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะถ้าง่าย หลายๆคนคงออกจากงานมาเล่นหุ้นแล้ว เลยคิดว่าถ้ามีบทสรุปการเริ่มเล่นไว้หน่อยก็น่าจะดี

ผมได้สรุปกฎ 3 ข้อสั้นๆสำหรับ ผู้เริ่มเล่นหุ้นมือใหม่นะครับ
(กฏสามข้อนี้ นักเล่นหุ้นที่ดีจำเป็นต้องรู้ไว้เป็นพื้นฐาน)

1. อย่าซื้อหุ้นตามกระแส
อย่าคิดว่าหุ้นไหน คนซื้อกันเยอะๆก็ตามๆเขาไป เพราะฝูงชน คนหมู่มากมักจะผิดซะส่วนใหญ่ และนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมคนเล่นหุ้นระยะยาวแล้วกำไรจึงกลุ่มคนส่วนน้อยเท่านั้น

เวลาตลาดมันขึ้น คนส่วนใหญ่จะบอกว่า มันยังขึ้นได้อีก ถึงคราวมันลงหนักๆ คนก็จะบอกว่ามันยังลงได้อีก แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่หุ้นจะขึ้น(หรือลง)ได้ตลอดแม้ว่าข่าวดีจะมามากมายขนาดไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อคนง่าย อย่าซื้อเพราะคนอื่นเขาซื้อ อย่าขายเพราะคนอื่นเขาขาย

2. ศึกษาข้อมูลของบริษัท และปัจจัยที่อาจจะส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัทนั้นให้ลึกซึ้ง ก่อนที่จะซื้อ

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อราคามีตั้งแต่ ภามรวมของSETเอง ภามรวมของตลาดโลก ราคาน้ำมัน ราคาทอง ค่าเงินดอลล/บาท ตัวอย่างเหล่านี้คือ ปัจจัยภายนอก(external factors) ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับสมรรถภาพ หรือผลงานของบริษัทโดยตรง

ส่วนปัจจัยภายใน(internal factors) คือ ปัจจัยที่ส่งผลต่อต้นทุนหรือรายได้ต่อบริษัทนั้นๆตรงๆ ก็ต้องดูประกอบด้วย
รื่องผลประกอบการ อย่างน้อยๆเลยเราก็ควรจะดู Price/Earning Ratio (ราคาปิดต่อกำไรสุทธิ หรือ ราคาหุ้นหนึ่งหน่วย ส่วนด้วย กำไรต่อหุ้นหนึ่งหน่วย) ) ซึ่งถ้าสูงก็แปลว่าราคาของหุ้น(Price) ค่อนข้างสูงไปเมื่อเทียบสัดส่วนกับกำไร(Earning)ที่บริษัทหามาได้ ถ้าสูงกว่าคนอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ก็พูดได้ว่าหุ้นนั้นแพง 


ในขณะเดียวกัน ถ้าP/Eมันต่ำมากก็น่าซื้ิอ เพราะหุ้นมันถูกเมื่อเทียบกับผลกำไรของบริษัท 
 (เน้นว่าราคาปิดต่อกำไรสุทธิ ไม่ใช่ราคาหุ้นด้วนๆ เพราะราคาหุ้นโดยตัวมันเองบอกอะไรเกี่ยวกะบริษัทไม่ได้เลย)

ในตัวอย่างด้านล่างนี้ ถ้าดูแต่ราคาหุ้นด้วนๆ เราจะเห็นว่าAPถูกกว่า น่าซื้อกว่า แต่จริงๆแล้ว AP (P/E = 6.67) ค่อนข้างแำพงเมื่อเปรียบเทียบกับสุภาลัย(P/E = 4.68) หรือ สุภาลัยราคาอาจจะถูกไป (undervalued) เพราะด้วยมูลค่ากำไรต่อหุ้นที่มีอยู่ ราคาหุ้นควรจะปรับตัวสูงขึ้นจนP/Eใกล้เคียงของAP ถ้าเราคิดแบบนี้ก็อาจจะซื้อเก็บไว้เลยก็ได้


ทั้งนี้เราควรจะใช้หลายๆratioประกอบกัน แต่ผมขอไม่นำมากล่าว ณ ตรงนี้

3. ตลาดหุ้นไม่ได้ขยับไปตามเหตุผลเสมอไป
บริษัทโปร่งใส กำไรดี ตลาดต่างประเทศเยี่ยม เศรษฐกิจโต แต่หุ้นที่เราถือก็อาจจะตกได้เหมือนกันตัวอย่างเช่นถ้าหุ้นที่เราถืออยู่ราคาขึ้นมากกว่า(higher percentage growth) หุ้นตัวอื่นมาตลอด ก็อาจจะทำให้คนในตลาดตัดสินใจเทกันขายเพื่อเอากำไรระยะสั้น(take profit) หรือขายด้วยความคิดที่ว่าราคามันขึ้นมาสูงไปแล้ว หรือไม่ พวกกองทุนทั้งหลายตั้งใจขายเพื่อทุบให้ราคาลงๆ แล้วมาปั่นทีหลัง เอากำไรแบบนี้ไปเรื่อยๆ (short sale) บางครั้งก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของตลาดเลย

จะเห็นได้ว่าถึงแม้เราจะไม่ซื้อหุ้นตามกระแส เราก็ต้องพยายามเดาใจคนส่วนใหญ่ด้วยว่าจะนำพาตลาดไปในทิษทางไหน เราจะได้ไม่เข้าไปซื้อหุ้นผิดเวลา

หวังว่าtipsเหล่านี้คงจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ




Posted in:
Twitter