การลงทุนหุ้น และเศรษฐกิจ อัพเดทรายสัปดาห์

14 มกราคม 2555

ตอบคำถามจากผู้อ่าน: Index Funds


จากประสบการณ์อันน่าเจ็บปวดของตัวเองเมื่อปีที่แล้ว ทำให้คิดว่าเราควรจะซื้อหุ้นเฉพาะตอนที่ตลาดลงแรงๆ และคิดว่าตัวเองเป็นนักลงทุนที่แย่มากๆในการเลือกหุ้นรายตัว เลยคิดว่าต่อไปจะซื้อแต่ TDEX เท่านั้น คิดแบบนี้มันถูกต้องมั้ย - Parichat K.


จริงๆแล้ว ความสามารถในการลงทุนของแต่ละคนขึ้นอยู่กับวิธีการลงทุนที่ถูกต้องและการทุ่มเทเวลามากกว่าIQนะครับ เพราะฉะนั้น การที่คุณParichatบอกว่า"ตัวเองเป็นนักลงทุนที่แย่มากๆในการเลือกหุ้นรายตัว" คงเกิดจากการใช้วิธีที่ผิด หรือการทุ่มเทเวลาศึกษาการลงทุนไม่เพียงพอ

ถ้าคุณParichatไม่มีเวลาศึกษาหุ้นด้วยตัวเองมากพอ การซื้อTDEX(หรือIndex Fundsประเภทต่างๆ)ก็เป็นทางออกที่ดีทางหนึ่งทีเดียวครับ และถ้าคุณใจแข็งพอที่ทยอยซื้อเพิ่มทุกๆครั้งที่ตลาดมันลงแรงๆ เช่น ปรับตัวลง20%-30%หรือมากกว่า ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ครับ

สิ่งที่ผมจะเตือนคนที่ลงทุนในกองทุนต่างๆที่มีผลตอบแทนตามดัชนีก็คือโปรดหลีกเลี่ยงกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมแพง เมื่อเปรียบเทียบกับค่าธรรมเนียมของกองทุนที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน

ถ้าคุณParichatตั้งใจจะเลือกลงทุนในIndex Fundเป็นหลัก ผมแนะนำให้อ่านเล่มนี้ประกอบครับ
The Little Book of Common Sense Investing โดย John C. Bogle



ขอบคุณมากค่ะ ขอถามต่ออีกนิด ถ้าตลาดลงสัก 3% ควรจะทยอยซื้อดีมั้ย หรือควรจะรอซื้อเมื่อตลาดลง 10-20%ขึ้นไป ไม่ได้คิดว่าตัวเองโง่แต่เกิดความผิดพลาดมากในการเลือกหุ้นรายตัว เลยคิดว่า TDEX และ TMB SET50 น่าจะเป็นทางออกที่ดี ค่าธรรมเนียมต่ำด้วยค่ะ ปีที่แล้วขาดทุนเยอะมากช่วงนี้เลยยังไม่กล้าซื้อหุ้นหรือกองทุนใดๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

การลงทุนผ่านIndex Fundsนั้นทำได้หลายวิธีนะครับ ในบทความนี้ผมจะนำเสนอ2วิธี คุณParichat K.และผู้อ่านทุกๆท่านลองเลือกดูละกันนะครับว่าตัวเองเหมาะกับแบบไหนมากที่สุด

1. ลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนของทรัพย์สินที่ลงทุน [Dollar-Cost Averaging]

Dollar-Cost Averaging นั้นสามารถทำได้โดยการลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด เช่น การตั้งซื้อIndex Fundเป็นจำนวนเท่ากับ2,000บาททุกต้นเดือน

การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนแบบนี้จะใช้ประโยชน์จากตลาดที่แกว่งตัวได้ดี เพราะในช่วงทีดัชนีปรับตัวลงเราก็ซื้อหน่วยลงทุนได้มากขึ้น และในช่วงที่ดัชนีปรับตัวขึ้นเราก็จะซื้อหน่วยลงทุนน้อยลง เนื่องจากเราลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าๆกันในแต่ละช่วงเวลา

Dollar-Cost Averaging นี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับการลงทุน เพราะมันช่วยตัดภาระที่นักลงทุนจะต้องมาตัดสินใจว่าจะเข้าออกตลาดตอนไหน และยังช่วยให้เราไม่มีต้นทุนการซื้อที่แพงเกินไปอีกด้วย


"The best way in my view is to just buy a low-cost index fund and keep buying it regularly over time... If you buy over time, you won't buy at the bottom, but you won't buy it all at the top either" - Warren Buffett


2. การจัดสรรปันส่วนและการปรับสัดส่วนสินทรัพย์ [Asset Allocation + Rebalancing]

การที่จะใช้วิธีนี้ได้ นักลงทุนต้องรู้จักตัวเองในสามเรื่องด้วยกันคือ

1.) จุดประสงค์ของการลงทุน [INVESTMENT GOAL]
2.) ช่วงเวลาในการลงทุน [TIME HORIZON]
3.) ความทนต่อความเสี่ยง [RISK TOLERANCE]


สำหรับวิธีการใช้นั้น อ่านได้ที่บทความนี้ครับ Asset Allocation Wizard: จัดสรรปันส่วนสินทรัพย์ง่ายๆด้วยตนเอง

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน และคุณParichatได้บ้างนะครับ


บทความที่คล้ายกัน
ตอบคำถามจากผู้อ่าน: ข้อสงสัยจากบทความ

Posted in:
Twitter