การลงทุนหุ้น และเศรษฐกิจ อัพเดทรายสัปดาห์

22 กุมภาพันธ์ 2555

Quotes เด็ดๆ: Value Investing


ในบทความ Value Investing (VI) คือ? ผู้เขียนได้เขียนไว้อย่างละเอียดว่า Value Investing มีที่มาที่ไป และมีความหมายอย่างไร

ท่านผู้อ่านหลายๆท่านคงสังเกตเห็นว่า ในส่วน "แก่นแท้ของแนวการลงทุน Value Investing" ซึ่งมีอยู่สี่ข้อนั้น เราได้ใส่คำพูดของบุรุษสามท่านเข้าไปด้วย บุคคลเหล่านั้นคือ 1.) Benjamin Graham ผู้ริเริ่มแนวการลงทุนแบบVI 2.) Warren Buffett ลูกศิษย์ของGraham ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติตามและพัฒนาแนวการลงทุนนี้ให้มีประสิทธิผลมากขึ้น และสุดท้าย 3.) Charlie Munger คู่หูของ Warren Buffett และรองประธานบริษัทBerkshire Hathaway

ในบทความนี้ ผู้เขียนจะแปล และขยายความคำพูดของสามท่านนี้ครับ เพราะฉะนั้น บทความนี้จึงเหมาะกับท่านผู้อ่านที่ไม่ชอบอ่านฉบับภาษาอังกฤษ และผู้อ่านที่ชอบอ่านเกี่ยวกับVI อ่านเท่าไรก็ไม่พอ!


INVEST IN COMPANIES, NOT STOCKS = ลงทุนในบริษัท ไม่ใช่หุ้น

"Investment is most intelligent when it is most businesslike" - Benjamin Graham

"การลงทุนนั้นชาญฉลาดที่สุด เมื่อเราลงทุนเหมือนกับซื้อธุรกิจ"

"If you're an investor, you're looking on what the asset is going to do, if you're a speculator, you're commonly focusing on what the price of the object is going to do, and that's not our game." - Warren Buffett

"ถ้าคุณเป็นนักลงทุน คุณจะสนใจว่าสินทรัพย์[ของบริษัท]จะทำอะไรให้กับคุณได้บ้าง แต่ถ้าคุณเป็นนักเก็งกำไร คุณจะจดจ่อกับการเคลื่อนไหวของราคาของสิ่งนั้น และนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เราทำ"

"The number one idea is to view a stock as an ownership of the business and to judge the staying quality of the business in terms of its competitive advantage. Look for more value in terms of discounted future cash-flow than you are paying for. Move only when you have an advantage." - Charlie Munger 

"สิ่งที่ต้องคิดเป็นอันดับแรก คือ ต้องมองหุ้นเป็นความเป็นเจ้าของธุรกิจ และตัดสินคุณค่าระยะยาวของธุรกิจจากความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจนั้น มองหามูลค่าของธุรกิจในรูปของ มูลค่าปัจจุบันของเงินสดที่จะไหลเข้ามาในอนาคต โดยธุรกิจนั้นจะต้องมีมูลค่ามากกว่าราคาที่คุณต้องจ่าย ลงทุนเมื่อคุณได้เปรียบเท่านั้น"

การจะเป็นนักลงทุนที่ดีได้นั้น คุณจะต้องเป็นนักธุรกิจที่ดี มองในรูปของราคาที่จะต้องจ่าย และสิ่งที่จะได้กลับคืนมาในอนาคต ในด้านการประเมินหาผลตอบแทน นักลงทุนควรให้สำคัญความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเป็นหลัก  (ที่Buffettพูดไว้ว่า "looking on what the asset is going to do" ในประโยคด้านบน) แทนที่จะไปนั่งทายทิศทางราคาหุ้น

ในส่วนนี้ Charlie Munger ปิดท้ายด้วยการพูดว่า "Move only when you have an advantage" ซึ่งผู้เขียนตีความว่า เป็นการแนะนำ ให้ลงทุนเฉพาะเวลาที่โอกาสมันเข้าข้างคุณจริงๆเท่านั้น และนี้คือความแตกต่างอันใหญ่หลวงนัก ระหว่างนักพนันกับนักลงทุน นักพนันจะมองผลตอบแทนก้อนโตเป็นหลัก ในขณะที่นักลงทุนมองทั้งผลตอบแทน และโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนนั้น ถ้าโอกาสการทำกำไรไม่สูงพอ เมื่อเปรียบเทียบกับโอกาสที่จะขาดทุน นักลงทุนควรปฏิเสธที่จะลงทุน


INVEST WITH A MARGIN OF SAFETY = ลงทุนแบบมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย

"[T]o distill the secret of sound investment into three words, we venture the motto: Margin of Safety." - Benjamin Graham 

"ถ้าจะให้สรุปความลับของการลงทุนที่ดีเป็นคำสามคำ คำนั้นคือ ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย"

"Never count on making a good sale. Have the purchase price be so attractive that even a mediocre sale gives good results." - Warren Buffett

"อย่าคิดว่าจะขายของได้ราคาสูง เราต้องซื้อของในราคาที่ถูกมากๆ จนการขายในราคาแย่ๆก็ยังทำกำไรได้"

"No matter how wonderful [a business] is, it's not worth an infinite price, so we have to have a price that makes sense." - Charlie Munger

"ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม มันจะไม่มีมูลค่าแบบไร้ขีดจำกัด เพราะฉะนั้น เราจะต้องซื้อธุรกิจในราคาที่สมเหตุสมผล"

Margin of Safety คือ ส่วนต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริง กับ ราคาที่ต้องจ่าย หรือ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การซื้อหุ้นที่ระดับราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง จะก่อให้เกิด Margin of Safety

การสร้างMargin of Safety นั้นจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่อเราคาดการณ์อนาคตธุรกิจได้ถูกต้อง และช่วยลดความเสี่ยงขาลง(downside risk)ได้ ในกรณีที่อนาคตของธุรกิจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดไว้


BUY AND HOLD = ซื้อแล้วถือ

"If you want to speculate do so with your eyes open, knowing that you will probably lose money in the end” - Benjamin Graham

"ถ้าคุณต้องการเก็งกำไร ขอให้เก็งกำไรแบบเปิดตาไว้ รู้ไว้ว่าคุณจะเสียเงินในที่สุด"

"Most of our large stock positions are going to be held for many years; and the scorecard on our investment decisions will be provided by business results over that period, and not by price on any given day." - Warren Buffett

"หุ้นส่วนใหญ่ของเรา จะถูกถือไปอีกหลายปี และตัวบ่งชี้ความสำเร็จในการลงทุนของเรานั้นจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของธุรกิจในช่วงที่เราถือหุ้นอยู่ ไม่ใช่ราคาหุ้น ณ วันใดวันหนึ่ง" 

"Sit on your ass investing because it only requires one decision - to buy into an excellence business and simply avoid taking actions for several decades provided the intrinsic value and competitive position of the firm remains unchanged." - Charlie Munger

"ลงทุนแบบแช่ก้นไปเลย เพราะมันต้องการแค่การตัดสินใจครั้งเดียว - ซื้อธุรกิจที่ดีเยี่ยมและหลีกเลี่ยงที่จะขายในอีกหลายสิบปีข้างหน้า ตราบใดที่มูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจ และความสามารถในการแข่งขันของบริษัทยังไม่เปลี่ยนแปลง"

นักลงทุนตัวจริงย่อมเข้าใจว่า ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนย่อมใช้เวลาเป็นปี แทบไม่มีผู้ใดเลยในโลกใบนี้ที่ประสบความสำเร็จระยะยาวด้วยการเทรดหุ้นระยะสั้นไปเรื่อยๆ


TAKE ADVANTAGE OF THE CROWD - ใช้ประโยชน์จากฝูงชน

"You may be happy to sell out to [Mr.Market] when he quotes you a ridiculously high price, and equally happy to to buy from him when his price is low. But the rest of the time you will be wiser to form your own ideas of the value of your holdings..." - Benjamin Graham

"คุณคงจะมีความสุขที่จะขายให้ Mr.Market เมื่อเขาเสนอราคาให้สูงแบบไร้เหตุผล และมีความสุขพอกันที่จะซื้อเวลาเขาเสนอราคาต่ำ ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือ คุณควรจะมีความคิดของคุณเองเกี่ยวกับมูลค่าของหุ้นที่คุณถือ"

"The most common cause of low prices is pessimism - some times pervasive, some times specific to a company or industry. We want to do business in such an environment, not because we like pessimism but because we like the prices it produces. It's optimism that is the enemy of the rational buyer." - Warren Buffett 

"สิ่งที่ให้ราคาหุ้นต่ำมักจะเป็น ความคิดเชิงลบ - บางครั้งเกิดขึ้นทุกย่อมหญ้า บางครั้งเกิดขึ้นกับเฉพาะบริษัท หรือ อุตสาหกรรม เราต้องการทำธุรกิจในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น ไม่ใช้เพราะเราชอบความคิดเชิงลบ แต่เราชอบระดับราคาที่เกิดขึ้น ความคิดเชิงบวกเนี่ยแหละที่เป็นศัตรูกับผู้ซื้อที่มีเหตุมีผล"

"Mimicking the herd invites regression to the mean." - Charlie Munger

"การเลียนแบบฝูงชน จะดึงผลตอบแทนของเราเข้าสู่ค่าเฉลี่ย"

ใช้การเคลื่อนไหวของตลาดให้เป็นประโยชน์ต่อเรา Mr.Market มีหน้าที่รับใช้เรา ไม่ใช่ชี้นำทางให้เรา
-----------------------------------------------------------------

ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า แก่นแท้ทั้งสี่ข้อของ Value Investing นั้นมีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจน กล่าวคือ 

  • นักลงทุนต้อง ลงทุนเหมือนซื้อธุรกิจ คำนึงถึงมูลค่า และความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจนั้นเป็นหลัก - INVEST IN COMPANIES, NOT STOCKS
  • นักลงทุนที่ดี ก็คือผู้ซื้อที่ดี คือต้องพยายามซื้อของในราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ - BUY WITH A MARGIN OF SAFETY
  • ทำไมจะต้องขาย ถ้าธุรกิจยังให้ผลตอบแทนที่ดี และยังไม่มีใครมาเสนอซื้อต่อแบบราคาแพงๆ เพราะฉะนั้น ถ้าธุรกิจยังให้ผลตอบแทนดีเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นๆในตลาดหุ้น ก็ถือต่อไป - BUY AND HOLD
  • แล้วนักลงทุนจะซื้อบริษัทดีๆมีคุณภาพ ณ ระดับราคาที่มีMargin of Safetyสูงๆได้อย่างไร ท่านสามารถทำได้ ถ้าท่านโลภเวลาผู้อื่นหวาดกลัว - TAKE ADVANTAGE OF THE CROWD
คำพูดของเซียนสามท่านนี้ดูเหมือนจะครอบคลุมหมดแล้วในเรื่องการลงทุน ที่ไม่ได้พูดถึงก็มีอยู่เรื่องเดียวครับ คือ เมื่อไรจึงจะเริ่มขายได้? ในบทความต่อไป ผู้เขียนจะมากล่าวถึง เวลาที่เหมาะสมในการขายนะครับ

บทความต้นฉบับ Value Investing (VI) คือ?

ชอบคำแนะนำจากเหล่าเซียน? ติดตามQuotes เด็ดๆภาคอื่นได้ที่นี่
Quotes เด็ดๆ: "Be greedy when the others are fearful"
Quotes เด็ดๆ: Invest. Don't Speculate

Posted in: , ,
Twitter