การลงทุนหุ้น และเศรษฐกิจ อัพเดทรายสัปดาห์

20 มกราคม 2555

เรื่องราวเกี่ยวกับ BANPU


วันนี้เรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับBANPUมาฝาก เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้เขียนของSETTALKอีกท่านหนึ่งที่ใช้นามปากกาว่าMattครับ (คุณMattไม่ได้มาเขียนเอง เพราะตอนนี้เขากำลังทำการบ้านสำหรับบทความ "ลงทุนสไตล์ Warren Buffett" ภาคสุดท้ายอยู่ครับ) จุดประสงค์ของบทความนี้คือ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนกับท่านผู้อ่านครับ

จุดเริ่มต้น

คุณMatt เริ่มมีความสนใจในหุ้น BANPU เมื่อ 23 ปีที่แล้ว เพราะ

"ผมก็คิดว่า พลังงานพวกนี้จะมีsupply ลดลงในระยะยาว คือมันก็เหมือนน้ำมันซึ่งจะมีปริมาณสำรองลดลงเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน โรงงานที่ใช้พลังงานถ่านหินก็มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ เมื่อsupplyลดลงเรื่อยๆ แต่ demand กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราคาถ่านหินในระยะยาวก็น่าจะสูงขึ้น"

เขากล่าวต่ออีกว่า "ผมก็เสนอแนะความคิดนี้กับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เล่นหุ้นเหมือนกัน" คุณMattได้อธิบายกับเพื่อนของเขาว่า หุุ้นBANPUน่าสนใจ เนื่องจากเหตุผลที่เพิ่งถูกกล่าวไปข้างต้น

เพื่อนคนดังกล่าวตอบกลับมาว่า สบายมาก เพราะเขาเองมีเพื่อนเป็นผู้บริหารระดับกลางอยู่ในบริษัทนี้ อย่าเพิ่งรีบร้อนซื้อ เดี๋ยวเขาจะสอบถามข้อมูลจากเพื่อนในบริษัทให้ก่อน


ไว้ใจผู้บริหาร

หลังจากการสอบถามข้อมูล ก็ได้ความว่า ผู้บริหารคนนี้ กล่าวว่าแนวโน้มราคาหุ้นไม่น่าจะขึ้นได้เยอะ เหตุผลก็คือ ถ่านหินของBANPU ณ ตอนนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่ถ่านหินเกรดA เพราะฉะนั้น อัตรากำไรจะไม่สูงเท่าถ่านหินที่มีคุณภาพดีกว่า อีกอย่างหนึ่ง ปริมาณถ่านหินสำรองก็ไม่มากมายนัก สรุปคือ เขาไม่แนะนำให้ซื้อหุ้นBANPU

หลังจากนั้น คุณMattบอกกับผู้เขียนว่า เขาและเพื่อน เชื่อในคำแนะนำของผู้บริหารคนนี้ ด้วยเหตุผล2ข้อ
1.) ผู้บริหารท่านนี้มีปูมหลังการศึกษาที่ดี จบจากมหาลัยชั้นนำของประเทศ (เป็นคนเก่ง)
2.) ผุ้บริหารผู้นี้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และน่าจะรู้จักอุตสาหกรรมถ่านหินเป็นอย่างดี

เพราะเชื่อคำแนะนำนั้น คุณMattจึงเลิกสนใจที่จะซื้อหุ้นBANPU


"เสียใจอย่างสุดซึ้ง"

คุณMatt บอกว่าเขาเสียดายโอกาสที่ไม่ได้ลงทุนในBANPU และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะศึกษาข้อมูลบริษัทให้ละเอียดกว่านี้

ทำไมจึงเสียดาย?

น่าเสียดายอยู่หรอกครับ เพราะคุณMattบอกว่า ตอนนั้นราคาต่อหุ้นของBANPUอยู่ที่ประมาณ 30 บาทเอง เรามาลองสมมติกันดูดีกว่าครับว่า คุณMattจะมีกำไรเท่าไร ถ้าเขาซื้อหุ้นเก็บไว้ตั้งแต่ตอนนั้น โดยเราจะแบ่งกรณีสมมติเป็นสองกรณีนะครับ

ในกรณีแรก เราสมมติว่า เขาซื้อBANPUตั้งแต่ตอนนั้นแล้วถือไว้จนสิ้นปี2010 ซึ่งเป็นวันที่ราคาต่อหุ้นของBANPUอยู่ที่ึ 792 บาท เราพบว่า เขาจะได้กำไรถึง25.4เท่า หรือ 2,540% ของเงินที่ลงทุน (กำไรนี้ยังไม่นับรวมเงินปันผล)

ในกรณีที่สอง เราสมมติว่า เขาซื้อBANPUแล้วถือไว้จนถึงเมื่อวาน รวมช่วงเวลาการถือประมาณ23ปี ซึ่งเป็นวันที่ราคาต่อหุ้นของBANPUอยู่ที่ึ 568 บาท เราพบว่า เขาจะได้กำไรประมาณ17.93เท่า หรือ 1,793% ของเงินลงทุน (กำไรนี้ยังไม่นับรวมเงินปันผล) เราจะเห็นว่า ในกรณีนี้ เขาจะได้กำไรน้อยกว่า เพราะช่วงหลังๆราคาBANPUค่อยๆปรับตัวลงมา 

ตารางต่อไปนี้เป็นตัวสรุปกรณีสมมติที่ผมเพิ่งกล่าวไปครับ




ท่านผู้อ่านจะเห็นว่าในกรณีแรก ผลตอบแทนต่อปีไม่รวมปันผล (Compound Annual Growth Rate) อยู่ที่ประมาณ16.87%ต่อปี ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณMattซื้อหุ้นBANPUด้วยเงิน 10,000 บาท แล้วถือไว้21ปี เงินก้อนนั้นจะกลายเป็น 264,000 บาท! ขอย้ำครับว่านี่ยังไม่รวมปันผลนะครับ

ในช่วง21ปีที่ผ่านมานั้น BANPUต้องเผชิญกับ 
- วิกฤตต้มยำกุ้ง ในช่วงปี 1997-1998
- ตลาดหุ้นปรับตัวลงรุนแรงหลังจากฟองสบู่ dot com แตก ในปี 2003
- วิกฤตทางการเงินที่นำไปสู่ The Great Recession ในปีช่วงปี 2008-2009

แต่ผลการดำเนินงาน และ ผลตอบแทนจากหุ้นก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากทีเดียว

ถึงแม้ว่าเราจะสมมติว่า คุณMattไม่ได้โชคดีมากนัก และได้กรณีที่สอง ผลตอบแทนก็ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจอยู่ดี


เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. หุ้นดี ยิ่งถือยาวยิ่งกำไรงาม เหมือนที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า
"Time is the friend of the wonderful company, the enemy of mediocre"

2. อย่าตัดสินใจ ซื้อ-ขาย เพียงแค่เพราะคำบอกเล่าของผู้อื่น ไม่ว่าเขาคนนั้นจะน่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม การตัดสินใจสุดท้ายในการลงทุนควรขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราศึกษา และวิเคราะห์ด้วยตัวเองอย่างถี่ถ้วน


คำเตือน ผลตอบแทนในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ผลตอบแทนในอนาคต และบทความนี้ไม่ใช่บทวิเคราะห์ที่แนะนำให้ซื้อหุ้นBANPU


ผลงานอื่นๆของคุณMatt

Posted in: ,
Twitter