การลงทุนหุ้น และเศรษฐกิจ อัพเดทรายสัปดาห์

14 สิงหาคม 2554

ใช้ความแกว่งตัวของตลาดให้เป็นประโยชน์


SET Index ได้ปรับตัวลงหกวันติดต่อกันนับตั้งแต่วันที่2สิงหา รวมทั้งสิ้นลดลงไป8.5% ก่อนจะมาตีกลับเมื่อวันที่10ที่ผ่านมา

แล้วเขากลัวอะไรกัน?  ปัญหาหนี้รัฐของอเมริกา และยุโรป เศรษฐกิจอันตกต่ำของอเมริกา และการชลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และล่าสุด อันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารฝรั่งเศส

สำหรับคนที่ติดตามSETTALKมาบ้าง ก็พอจะทราบดีว่า  ปัญหาพวกนี้อยู่กับเรามาพักนึงแล้ว และทางเราก็ได้ย้ำเตือนมาเสมอ

หนี้อเมริกาเยอะ - ข้อมูลเก่า เป็นปัญหาที่ก่อตัวมาพักใหญ่
หนี้ยุโรปเยอะ - รู้ตั้งแต่ปีทีแล้ว ตอนกรีซต้องการความช่วยเหลือรอบแรก
เศรษฐกิจอเมริกาตกต่ำ - สังเกตได้จากข้อมูลGDP ไตรมาส1(ถูกเปิดเผยตั้งแต่เมษา) และไตรมาส2 (ถูกเปิดเผยตั้งแต่กรกฏา)

โดยสรุปคือ อยู่ดีๆตลาดก็กลับมาตกใจ กับสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว... บางครั้งตลาดก็ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย


Mr.Market (มิสเตอร์ มาร์เก็ต)

Benjamin Graham อาจารย์ของ Warren Buffett เคยเปรียบเทียบไว้ว่าตลาดก็เหมือนบุคคลคนหนึ่ง ชื่อ Mr.Market เขาคนนี้มีหน้าที่เสนอราคาหุ้น ให้นักลงทุนพิจารณา โดยที่ราคานั้นๆ นักลงทุนสามารถเลือกที่จะซื้อหุ้นเพิ่มจากMr.Market หรือขายหุ้นให้Mr.Marketก็ได้

Mr.Market เป็นบุคคลที่มีอารมณ์แกว่งโดยเฉพาะในช่วงระยะสั้น (รายวัน-รายอาทิตย์) วันไหนที่เขาอารมณ์ดี เขาจะมองเห็นแต่สิ่งดีๆเกี่ยวกับบริษัท และปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้เขาเสนอราคาหุ้นสูงๆกับนักลงทุนอย่างพวกเรา ด้วยความคิดที่ว่าธุรกิจดีขนาดนี้ หุ้นแพงเท่าไรเขาก็ยอมซื้อจากเรา และถ้าจะซื้อหุ้นเพิ่มจากเขา ก็ย่อมต้องซื้อแพงด้วยเช่นกัน

แต่ถ้าวันไหนที่Mr.Market อารมณ์ไม่ดี เขาจะมองเห็นแต่สิ่งแย่ๆเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆ ความกลัวนั้นมาจากทุกทิศทางจนทำให้เขาเสนอราคาหุ้นให้เราต่ำๆ ด้วยความคิดที่ว่า "บริษัทนี้คงไปไม่รอดแล้ว ซื้อจากผมไปเถอะผมขายให้ถูกๆ แต่ถ้าจะขายให้ผม ผมจ่ายให้น้อยนะ เพราะธุรกิจมันแย่มากแล้ว ผมไม่อยากได้"

ทุกวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ Mr.Market จะแวะมาหาเราตลอด (ผ่านทางเว็บไซต์http://www.settrade.com) เสนอราคาสูงบ้าง ต่ำบ้างแล้วแต่อารมณ์ในวันนั้น

สิ่งที่เราควรทำก็คือ อย่าให้อารมณ์ของเราคล้อยตามไปกับคนๆนี้ เช่นพอMr.Marketมองภาพทุกอย่างเป็นลบ เราก็พลอยตกใจขายตามทั้งๆที่เขาเสนอราคาให้ต่ำ หรือ พอMr.Market ตื่นเต้น เห็นทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจดีไปหมด เราก็รีบซื้อหุ้น ทั้งๆที่เขาเสนอราคามาสูงมาก

เราควรใช้วิจารณญาณของตนเองจนได้ข้อสรุปว่าธุรกิจมีอนาคตที่ดีหรือมั้ย แล้วใช้ประโยชน์จากอารมณ์อันแกว่งของMr.Market โดยการทยอยซื้อตอนMr.Marketเสนอราคาต่ำๆ และทยอยขายเมื่อMr.Marketมองโลกในแง่ดีมากๆจนเสนอราคาสูงๆ

สนใจMr.Market เฉพาะตอนที่เขาให้ประโยชน์กับเราได้เท่านั้น


ความคิดเห็นจากSETTALK

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจในอเมริกาได้อ่อนตัวลงตั้งสองไตรมาสแรกของปี กำไรของบริษัทไทยที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ยังคงเติยโตต่ออย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความคิดที่ว่า มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบสอง (double-dip recession) ที่มีความรุนแรงใกล้เคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปี2008 ทางเราเชื่อว่า Mr.Marketของบ้านเรานั้นตกใจ และหวาดกลัวจนเกินเหตุ จนตอนนี้หุ้นหลายๆตัวก็ราคาถูกกว่าเดิมมาก

สรุปก็คือ ถ้าคุณเล็งหุ้นพื้นฐานดีๆตัวไหนไว้อยู่ ทยอยซื้อได้แล้วครับ ก่อนที่Mr.Marketจะหายตกใจ

----------------

"When investing, we view ourselves as business analysts - not as market analysts, not as macroeconomic analysts, and not even as security analysts" Warren Buffet in letters to the shareholders of Berkshire Hathaway Inc. 1987.

"เวลาลงทุน เรามองว่าตัวเราว่าเป็น นักวิเคราะห์ธุรกิจ ไม่ใช่นักวิเคราะห์ตลาด ไม่ใช่นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ และไม่ใช่แม้กระทั้ง นักวิเคราะห์หลักทรัพย์" วอร์เรน บัฟเฟตต์ ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นบริษัท Berkshire Hathaway Inc. 1987.

Posted in:
Twitter